BeInCrypto - ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของโครงการ Ponzi BitConnect อาจได้รับเงินชดเฉยในที่สุด ศาลแขวงสหรัฐในเขตทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียสั่งให้ชดใช้เงินกว่า 17 ล้านดอลลาร์ ให้กับเหยื่อเกือบ 800 รายจากกว่า 40 ประเทศ

ข่าวประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ระบุว่า

“ตามความจริงแล้ว โครงการนี้เป็นโครงการแชร์ลูกโซตามตำราโดยจ่ายเงินให้กับนักลงทุนก่อนหน้าด้วยเงินจากนักลงทุนที่เข้าร่วมภายหลัง Glenn Arcaro และผู้สมรู้ร่วมคิดของเขารับรองว่าจะได้รับกำไรมากถึง 15% แต่พวกเขากลับนำเงินส่วนนั้นมาใช้เพื่อตนเอง”

การฉ้อโกงของ BitConnect

โครงการนี้เปิดตัวในปี 2016 โดยมีมูลค่าตลาดสูงสุดที่ 3.4 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การคลี่คลายเริ่มขึ้นในอีกหนึ่งปีต่อมาหลังจากที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรออกประกาศเพื่อพิสูจน์ความถูกต้องตามกฎหมาย ในเดือนมกราคม 2018 พวกเขาถูกยังคับให้ยุติโครงการโดยคณะกรรมการหลักทรัพย์แห่งรัฐเท็กซัส โดยกล่าวหาว่าบริษัทดำเนินโครงการ Ponzi

มีรายงานก่อนหน้านี้ว่า Satish Kumbhani ผู้ก่อตั้งบริษัทถูกฟ้องในข้อหายักยอกเงิน 2.4 พันล้านดอลลาร์จากนักลงทุนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 เขาถูกข้อหาหลายกระทง เช่น การสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกง การฉ้อโกงทางการเงิน การสมรู้ร่วมคิดในการดำเนินการปั่นราคาสินค้าโภคภัณฑ์ การดำเนินธุรกิจส่งเงินที่ไม่มีใบอนุญาต และการสมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงินระหว่างประเทศโดยกระทรวงยุติธรรม แต่ปัจจุบันยังไม่มีใครทราบที่อยู่ของ Kumbhani

บทลงโทษของ Glenn Arcaro

Arcaro เป็นผู้ให้การสนับสนุนอันดับต้น ๆ ของโปรเจคนี้ เขาสารภาพผิดในข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงทางอินเทอร์เน็ตเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2021 เขายอมรับว่าสมรู้ร่วมคิดกับผู้บริหารคนอื่น ๆ เพื่อใช้ประโยชน์จากความสนใจของผู้ใช้ในสินทรัพย์ crypto

DOJ กล่าวหาว่า Arcaro และผู้สมรู้ร่วมคิดหลอกลวงนักลงทุนเกี่ยวกับ “Lending Program” ของแพลตฟอร์ม นอกจากนี้เขายังโน้มน้าวว่าเครื่องมือที่ใช้โดยแพลตฟอร์มอย่าง “Trading Bot” และ “Volatility Software” สามารถสร้างผลกำไรจำนวนมากจากการซื้อขายบนความผันผวนของตลาดซื้อขาย crypto โดยไม่มีมูลความจริง

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ทำการสืบสวนแบบคู่ขนานพบว่าพวกเขาใช้เงินทุนของนักลงทุนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและส่งเงินเหล่านั้นไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลส่วนตัว Arcaro ถูกตัดสินจำคุกราว 3 ปี

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก BeInCrypto