หน้าแรก > ข้อมูล > รายละเอียดข่าว
เน้นเก็งกำไรกลุ่มพลังงาน ทยอยเก็บหุ้น Defensive ลงทุนระยะยาว
2022-03-24 11:40:11
more 
599

Investment Ideas:

ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,665-1,685 จุด เราคาดว่า SET ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยมุมมองต่อ SET สัปดาห์นี้ ยังมีการเคลื่อนไหวในลักษณะพักฐาน ต่อเนื่อง โดยยังไม่มีปัจจัยบวกหนุนที่ชัดเจน ขณะที่การลงทุนนยังคงต้องมีความระมัดระวังความเสี่ยง จากการฟื้นตัวของ US Bond Yield ระยะสั้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ Inverted Yield Curve โดยปัจจุบัน Bond Yield Spread 2/10 ปี อยู่ในกรอบเพียง 20 bps กลยุทธ์การลงทุนยังเน้น Selective หุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว เน้นหุ้นกลุ่มธนาคาร ในลักษณะซื้อกลับ หลังราคาหุ้นสะท้อนความ กังวลต่อการที่ S&P Global Rating ปรับลดอันดับเครดิต 4 ธนาคารไทย เรายังเลือก KBANK (BK:KBANK) BBL SCB และ TTB รวมไปถึงหุ้นใน Core Investment กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกําลังซื้อในประเทศฟื้นตัว (ชื่อ ขายระยะสั้น 1-3 เดือน) เราเลือก BEM SPRC BEC ONEE BJC CRC CPALL (BK:CPALL) OSP CBG MAKRO และ HMPRO Trading Ideas: ฐานะการเงินกลุ่มธนาคารแข็งแกร่ง ราคาหุ้นที่ย่อตัว เป็นจังหวะที่ดีต่อการเข้าลงทุน เลือก KBANK BBL SCB และ TTB เป็นหุ้นเด่น - จากกรณีที่ S&P Global Rating ปรับลดอันดับเครดิต SCB และ KBANK เป็น BBB (เดิม BBB+) และ KTB และ TTB เป็น BBB- (เดิม BBB) แต่ยังคงอันดับ BBL และ BAY ที่ ระดับ BBB+ เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงเปราะบางและไม่สม่ําเสมอในหลายภาคส่วนของ ไทย อย่างไรก็ตาม แม้ S&P Global Rating ปรับลดอันดับเครดิต 4 ธนาคาร มีแนวโน้มของอันดับความ น่าเชื่อถือ stable Outlook เนื่องจากยังมีความแข็งแกร่งด้านเงินกองทุน และมีเงินสํารองในระดับสูง สอดคล้องกับข้อมูลของ BoT ที่ระบุฐานะทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ไทยที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วน เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสียง (BIS ratio) อยู่ที่ 206 โดยระหว่างปี 2563-2564 ธนาคารพาณิชย์ไทย ได้กัน สํารองเพิ่มเติม 4.3 แสนล้านบาท สะท้อนความระมัดระวังของธนาคารพาณิชย์ไทย ภายใต้สถานการณ์ความ เสียงสูงข้างต้น ซึ่งปัจจุบันเงินสํารองของระบบ ธนาคารพาณิชย์ไทยอยู่ที่ 8.9 แสนล้านบาท คิดเป็นกว่า 1.6 เท่าของสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Coverage ratio) นอกจากนี้ BoT ได้ทดสอบระดับเงินกองทุนของ ธนาคารพาณิชย์ไทย (ระหว่างปี 2560-2566) ภายใต้ภาวะวิกฤต (stress test) พบว่าระบบ ธนาคารพาณิชย์ ไทยยังแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับความเสียงจากความไม่แน่นอนสูงในอนาคต ในระยะต่อไป คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้รายได้และความสามารถในการชําระหนี้ของลูกหนี้ รวมถึงคุณภาพสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ไทยปรับดีขึ้นเป็นลําดับ ราคาหุ้นวานนี้เปิดการซื้อขายสะท้อน ความกังวลของการที่ S&P Global Rating ปรับลดอันดับเครดิต อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของ BoT ที่สะท้อน ความแข็งแกร่งของธนาคารพาณิชย์ของไทย ทําให้เรามองเป็นจังหวะที่ดีต่อการลงทุน ประกอบกับอัตรา ดอกเบียมีแนวโน้มปรับเพิ่ม และการคาดหมายผลประกอบการกลุ่มธนาคาร 1Q65 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY ทําให้เรามีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคาร เราเลือก KBANK BBL SCB และ TTB เป็นหุ้นเด่น

10 มาตรการลดค่าครองชีพ เพิ่มกําลังซื้อในประเทศ เลือก CPALL BJC และ MAKRO เป็นหุ้นแด่น - ที่ ประชุม ครม. เห็นชอบ 10 มาตรการลดค่าครองชีพ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนที่ได้รับ ผลกระทบจากภาวะราคาน้ํามันแพง และสถานการณ์วิกฤตยูเครนและรัสเซีย ระยะเวลา 3 เดือน เริ่ม พ.ค. ถึง ก.ค. 2565 ได้แก่

(1) เพิ่มเงินช่วยเหลือเพื่อซื้อก๊าซหุงต้มสําหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ จํานวน 3.6 ล้านคน เป็น 100 บาท (เดิม 45 บาท)

(2) ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สําหรับผู้ค้าหาบเร่ แผงลอย ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ จํานวน 5,500 คน

(3) ช่วยเหลือค่าน้ํามันให้กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ รับจ้าง ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก จํานวน 157,000 คน โดยช่วยลดค่าใช้จ่ายน้ํามัน แก๊สโซฮอลล์ 250 บาทต่อเดือน

(4) คงราคาขายปลีกผู้ที่ใช้ก๊าซ NGV ไว้ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม

(5) ผู้ขับขี่ แท็กซี่มิเตอร์ภายใต้โครงการลมหายใจเดียวกัน สามารถซื้อก๊าซได้ในราคา 13.62 บาทต่อกิโลกรัม

(6) ลด ภาระค่าไฟฟ้า สําหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยลดค่า Et ลง 22 สตางค์ต่อหน่วย (พ.ค. ถึง ส.ค. 65)

(7) ตรึงราคาขายปลีกน้ํามันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้น เมย. 65

(8) ดูแลการปรับราคา ก๊าซหุงต้มในช่วง เม.ย. ถึง มิ.ย. โดยบริหารผ่านการใช้กองทุนน้ํามัน

(9) ลดอัตราเงินสบทบของนายจ้างและ ลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม จาก 5% เหลือ 1% และ

(10) ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 จาก 432 บาท เหลือ 91 บาท และลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ลงเหลือ 42-180 บาทต่อ เดือน เรามองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มอุปโภคบริโภค จากกําลังซื้อที่เพิ่มขึ้น เราแนะนําหุ้นลงทุนตามพอร์ต Core Investment ของเรา กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกําลังซื้อในประเทศฟื้นตัว (ซื้อขายระยะสั้น 1-3 เดือน) เราเลือก BEM SPRC BEC ONEE BJC CRC CPALL OSP CBG MAKRO และ HMPRO สัปดาห์นี้ยังต้องติดตามสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน และรายงาน PMI ยูโรโซน และญี่ปุ่น ปลายสัปดาห์ - ประเด็นที่น่าติดตามสัปดาห์นี้ ยังคงอยู่ที่ สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน และสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและ ต่างประเทศ ขณะที่ประเด็นทางด้านเศรษฐกิจต่างประเทศ รายงานดัชนี PMI เดือน มี.ค. (เบื้องต้น) ของ ยูโรโซน (24 มี.ค.) รายงานดัชนี PMI ภาคบริการของญี่ปุ่น (24 มี.ค.) และรายงาน CPI เดือน มี.ค. ญี่ปุ่น (25 มี.ค.) มุมมองทางเทคนิค - หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค เราเลือก EA CKP และ NEX

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities

คำสั่ง:
เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FxGecko เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!

บทความที่เกี่ยวข้อง

您正在访问的是FxGecko网站。 FxGecko互联网及其移动端产品是中国香港特别行政区成立的Hitorank Co.,LIMITED旗下运营和管理的一款面向全球发行的企业资讯査询工具。

您的IP为 中国大陆地区,抱歉的通知您,不能为您提供查询服务,还请谅解。请遵守当地地法律。