หน้าแรก > ข้อมูล > รายละเอียดข่าว
แม้ว่า Web3 จะมาเป็นอนาคตของอินเตอร์เน็ต แต่ก็ยังมีสิ่งที่ทำให้เรากังวลใจ โดย Siamblockchain
2022-03-26 17:40:05
more 
1582
แม้ว่า Web3 จะมาเป็นอนาคตของอินเตอร์เน็ต แต่ก็ยังมีสิ่งที่ทำให้เรากังวลใจ © Reuters. แม้ว่า Web3 จะมาเป็นอนาคตของอินเตอร์เน็ต แต่ก็ยังมีสิ่งที่ทำให้เรากังวลใจ

สิ่งที่เราเรียกกันว่า Web3 นั้นจะเข้ามาเป็นศูนย์กลางของระบบนิเวศผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่มีความ decentralized โดยอาศัยเครือข่ายบล็อกเชนในการทำงานร่วมกันโดยไม่ต้องมีเครื่องมือตรวจสอบแบบดั้งเดิม เช่น บริษัท, สถาบันและหน่วยงานของรัฐ แต่สิ่งนี้แท้จริงแล้วนั้นหมายความว่าอย่างไร? Web3 คืออะไร? Web3 เป็นคำที่ถูกใช้โดย Gavin Wood ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิ Web3 ซึ่ง Web3 นั้นถือเป็นอีกขั้นของอินเทอร์เน็ตและบางทีอาจเป็นการเข้ามาจัดระเบียบสังคมในภาพรวมโดยที่ Web 1 เป็นยุคของโปรโตคอลแบบเปิดที่มีความ decentralized ซึ่งกิจกรรมที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นสำหรับการค้นหาข้อมูลส่วน Web2 นั้นคือยุคที่เรากำลังอยู่ร่วมกับมันเป็นยุคที่มีความ centralized มีการสื่อสารกันเกิดขึ้น, มีการค้าขายเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มที่เป็นแพลตฟอร์มแบบปิดซึ่งเป็นของบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ และทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมจากส่วนกลางโดยหน่วยงานกำกับดูแลและหน่วยงานของรัฐ ในทางตรงกันข้ามนั้น Web3 ถือกำเนิดขึ้นเพื่อที่มาแก้ไขปัญหาของ Web2 โดยการมอบความเป็นเจ้าของข้อมูลและอำนาจเหนือข้อมูลประจำตัวดิจิทัล ซึ่งขณะนี้เป็นของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่เก็บข้อมูลให้กับผู้ใช้แต่ละราย กล่าวอีกนัยหนึ่ง Web3 นั้นหมายถึงระบบนิเวศออนไลน์ที่ decentralized ตามบล็อกเชนโดยเพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นรูปด้านล่างจะเป็นการแสดงโครงสร้างเปรียบเทียบกันระหว่าง Web2 และ Web3 นั่นก็หมายความว่าแพลตฟอร์มและแอพลิเคชั่นที่สร้างบน Web3 จะไม่ใช้ของเจ้าของซึ่งเป็นผู้ดูแลส่วนกลางแต่เจ้าของข้อมูลโดยแท้จริงนั้นก็คือผู้ใช้งานซึ่งหากกล่าวโดยสรุปคือผู้ใช้งานนั้นจะเป็นหัวใจสำคัญของ Web3 การกระจายอำนาจและความไว้ใจบน Web3 แทนที่จะใช้เซิร์ฟเวอร์แบบรวมศูนย์เพียงเครื่องเดียว Web3 ถูกสร้างขึ้นบนเครือข่ายบล็อคเชนซึ่งขับเคลื่อนโดย cryptography ทำให้สามารถจัดเก็บข้อมูลบนอุปกรณ์แบบกระจายตัว (หรือที่เรียกว่า “โหนด”) ทั่วโลก และอุปกรณ์แบบกระจายดังกล่าวสามารถเป็นอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์, แล็ปท็อปหรือแม้แต่เซิร์ฟเวอร์ที่แข็งแกร่งกว่าซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นกรอบการทำงานของเครือข่ายบล็อคเชนซึ่งสื่อสารระหว่างกันเพื่อให้สามารถจัดเก็บ, เผยแพร่และเก็บรักษาธุรกรรมข้อมูลได้โดยไม่ต้องใช้ผู้ตรวจสอบบุคคลที่สามที่เชื่อถือได้ (เช่น สถาบัน, บริษัทหรือรัฐบาล) กล่าวอีกนัยหนึ่งคือต้องขอบคุณโหนดที่รันซอฟต์แวร์บล็อคเชน ทำให้สามารถบันทึกการถ่ายโอนทรัพย์สินแบบ decentralized ได้ซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่เราเคยเห็นมาก่อนตอนนี้วิธีสร้าง Web2 เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องส่งข้อมูลของเราให้กับบริษัทเทคโนโลยี, รัฐบาลและเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลส่วนกลางที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นเราจึงต้องเชื่อมั่นว่าผู้ตรวจสอบบุคคลที่สามแบบดั้งเดิมเหล่านี้จะใช้ข้อมูลของเราในทางที่ถูกหลักจริยธรรมและปลอดภัยและเราก็มักจะแปลกใจเมื่อมีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้น เช่น ข้อมูล Facebook-Cambridge Analytica ถูกเปิดเผย ในโครงสร้างปัจจุบันของ Web เป็นเรื่องง่ายมากสำหรับข้อมูลของเราที่จะทำธุรกรรมใน “ตลาดที่มีความข้องเกี่ยวกับพฤติกรรมในอนาคต” โดยที่เราไม่รู้ว่าสิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นและผลกระทบที่มีต่อชีวิตของเราไม่น่าแปลกใจเลยที่ความเป็นเจ้าของข้อมูลและอัตลักษณ์แบบกระจายศูนย์ของเราหรือที่เรียกว่าอัตลักษณ์อธิปไตยในตนเองถือเป็นปัจจัยพื้นฐานสำหรับ Web3 ความไว้วางใจของระบบอัตโนมัติด้วยการทำงานร่วมกันของ Web3 ใน Web3 อัตลักษณ์แบบกระจายศูนย์และความเป็นเจ้าของข้อมูลได้รับการจัดการโดยผู้ใช้แต่ละรายเองผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น MetaMask (ทำงานบนบล็อกเชนของ Ethereum) หรือ Phantom (ทำงานบนบล็อกเชนของ Solana) กระเป๋าเงินดิจิทัลเหล่านี้ทำงานได้ไม่มากก็น้อยเหมือนกระเป๋าเงินในโลกแห่งความเป็นจริง ดังนั้น

กดอ่านข่าว แม้ว่า Web3 จะมาเป็นอนาคตของอินเตอร์เน็ต แต่ก็ยังมีสิ่งที่ทำให้เรากังวลใจ ต่อที่ Siam Blockchain

คำสั่ง:
เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของเว็บไซต์ FxGecko เนื้อหามีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกอย่างระมัดระวัง! หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ลิขสิทธิ์ ฯลฯ โปรดติดต่อเราและเราจะทำการปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด!

บทความที่เกี่ยวข้อง

您正在访问的是FxGecko网站。 FxGecko互联网及其移动端产品是中国香港特别行政区成立的Hitorank Co.,LIMITED旗下运营和管理的一款面向全球发行的企业资讯査询工具。

您的IP为 中国大陆地区,抱歉的通知您,不能为您提供查询服务,还请谅解。请遵守当地地法律。