- ในเซสซั่นช่วงเช้าของฝั่งยุโรปวันศุกร์ ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากการแข็งค่าในชั่วข้ามคืน เช่นเดียวกันกับเงินปอนด์สเตอร์ลิงที่แข็งค่าขึ้นหลังการเปิดเผยข้อมูลการเติบโตของสหราชอาณาจักรในไตรมาสแรก

เมื่อเวลา 03:150 ET (07:15 GMT) {942611|ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ}} ซึ่งอ้างอิงมูลค่าเทียบกับสกุลเงินหลักหกสกุล ปรับตัวลดลง 0.1% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 101.785 ทำให้สัปดาห์นี้ดัชนีดังกล่าวจะปรับตัวขึ้นได้น้อยกว่า 1% จบการปรับตัวลดลงสองสัปดาห์ติดต่อกัน

ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีแสดงให้เห็นจำนวนคนอเมริกันที่ยื่น ตัวเลขดังกล่าวในสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1½ ปี ในขณะเดียวกัน ดัชนีในเดือนเมษายนได้ดีดตัวขึ้นเล็กน้อย

ข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่าอาจหยุดการดำเนินนโยบายการเงินอย่างเข้มงวดชั่วคราวในการประชุมเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นความคาดหวังที่กดดันดอลลาร์สหรัฐมาเกือบทั้งปี

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐได้แข็งค่าขึ้นในวันพฤหัสบดี ดัชนีดอลลาร์สหรัฐไต่อยู่ใกล้กับระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ

การประชุมระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ และสมาชิกสภานิติบัญญัติระดับสูงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ในวันศุกร์ถูกเลื่อนออกไป และรัฐบาลสหรัฐฯ อาจไม่มีเงินเพื่อชำระค่าใช้จ่ายอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 1 มิถุนายน เว้นแต่จะมีการขยับเพิ่มเพดานหนี้

นักวิเคราะห์จาก ING ให้ความเห็นว่า “การดีดตัวของเงินดอลลาร์เมื่อวานนี้เป็นผลจากออเดอร์ของนักลงทุนทั้งสองฝั่งมีในระดับที่ใกล้เคียงกันและตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาถือว่าต่ำกว่าคาดการณ์ นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการลงทุน ไม่มีความแน่นอน ซึ่งเกิดจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยและดราม่าเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนถามหาสกุลเงินที่มีความสามารถเป็นสินทรัพย์สำรองปลอดภัยมากขึ้น”

สถานการณ์คู่สกุลเงินอื่นๆ นั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 1.2535 ดีดตัวกลับขึ้นมาหลังจากข้อมูล GDP แสดงให้เห็นว่าสหราชอาณาจักรมีเติบโต 0.1% ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2023 แม้ว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นจนนำไปสู่การลดลงอย่างรวดเร็ว 0.3% ในเดือนมีนาคม

ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดเบสิสในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 12 เพื่อพยายามต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับตัวเลขสองหลัก

“แม้ว่าเราจะไม่รวมการขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในเดือนมิถุนายน แต่จากตัวเลขที่เห็นของเรานั้นตอนนี้ BoE ได้มาถึงจุดสูงสุดของรอบการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว ที่สำคัญ อัตราเงินเฟ้อจะเริ่มชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วในปีนี้” นักวิเคราะห์จาก ING กล่าวเสริม

ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 1.0930 เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 134.83 โดยที่เงินเยนสามารถปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในกราฟรายสัปดาห์ได้เพราะความต้องการสกุลเงินสำรองปลอดภัย ในขณะเดียวกัน ปรับตัวลดลง 0.1% สู่ 0.6694

คู่สกุลเงิน ขยับลงมาที่ 6.9463 แต่ยังคงใกล้เคียงกับระดับราคา 7 ซึ่งเป็นตัวเลขสำคัญทางจิตวิทยา สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะนักลงทุนมีความสงสัยเกี่ยวกับความแข็งแกร่งและความเร็วในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน