โดย  Peter Nurse

- ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในการซื้อขายช่วงเช้าตลาดยุโรปวันนี้ หลังจากอัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคสหรัฐฯ ยังคงทรงตัวในเดือนมกราคม ขณะที่ค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงร่วงลงหลังจากอัตรา CPI ของอังกฤษลดลง

เมื่อเวลา 03:10 น. ET (07:10 GMT) ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับกลุ่มสกุลเงินอื่น ๆ อีกหกสกุล ซื้อขายสูงขึ้น 0.3% เป็น 103.457

โดย ของสหรัฐฯ อยู่ที่ 6.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมกราคม ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 6.2% ในขณะที่ตัวเลข ซึ่งหลังจากนำรายการที่ผันผวนออกเช่น พลังงานและอาหาร ได้อยู่ที่ 5.6% มากกว่าการคาดการณ์ที่ 5.5%

ตัวเลขเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อนั้นยากที่จะควบคุม แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งแล้วก็ตาม ซึ่งเปิดโอกาสให้ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น

จอห์น วิลเลียม ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แห่งนิวยอร์ก ระบุเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงเกินไป แม้จะมีการผ่อนปรนบ้างในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่งสัญญาณเป็นนัยว่าจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่านี้

“งานของเรายังไม่เสร็จสิ้น” เขากล่าว และเสริมว่า “เราจะดำเนินการเช่นนี้ต่อไปจนกว่างานของเราจะเสร็จสิ้น”

ตัวเลข ของสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยในภายหลัง และจะให้เบาะแสว่าผู้บริโภคสหรัฐฯ มีพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างไรหลังจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีที่ผ่านมา

สกุลเงินอื่น ๆ ลดลง 0.6% เป็น 1.2094 หลังจาก รายปีของสหราชอาณาจักรอยู่ที่ 10.1% ในเดือนมกราคม ลดลงจาก 10.5% ในเดือนที่แล้ว แม้ว่านี่จะเป็นการร่วงลงที่มากกว่าที่คาดไว้ และเป็นเดือนที่สามติดต่อกันที่ลดลง แต่ก็ยังคงมากกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษถึงห้าเท่า

ร่วงลง 0.2% เป็น 1.0709 โดยเงินยูโรแข็งค่าขึ้นก่อนการกล่าวคำแถลงของคริสตีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป

ลาการ์ดกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ECB จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วต่อไปเพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อซึ่งยังคงสูงเกินไป และเทรดเดอร์จะคอยดูว่าเธอได้ลดท่าทีความเชื่อนี้ลงบ้างหรือไม่

เพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 133.32 โดยเทรดเดอร์ยังคงพยายามวิเคราะห์ทิศทาง หลังจากการเสนอชื่อคาซูโอะ อุเอดะนักวิชาการให้เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นคนต่อไป ในขณะที่ ลดลง 1% เป็น 0.691372