โดย Ambar Warrick 

-- ตลาดหุ้นเอเชียพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในวันพุธ เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนตัวเกินคาด เพิ่มความหวังว่าจะมีการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าความเชื่อมั่นของการซื้อขายยังคงเป็นไปด้วยความระมัดระวัง เพราะยังมีการคาดการณ์ถึงสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ

หุ้นภาคเทคโนโลยีขนาดใหญ่พุ่งสูงขึ้นมากที่สุดในเอเชีย โดยดัชนี ของเกาหลีใต้ ของฮ่องกง และดัชนี เพิ่มขึ้นระหว่าง 1% ถึง 1.4%

หุ้นภาคเทคโนโลยีในเอเชียได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่ารัฐบาลจีนกำลังวางแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลถึง 143,000 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยให้บริษัทผลิตชิปในท้องถิ่นฝ่าข้อจำกัดการนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ

ดัชนีหุ้นบลูชิพ ของจีนเพิ่มขึ้น 0.6% ขณะที่ดัชนี เพิ่มขึ้น 0.3% ความกังวลเกี่ยวกับผู้ป่วยโควิด19 ที่เพิ่มขึ้นภายในส่งผลกระทบต่อหุ้นในประเทศ แม้ว่ารัฐบาลจะผ่อนคลายข้อจำกัดมากขึ้น

หุ้นเทคโนโลยีถูกเทขายอย่างหนักในปีนี้ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นทำให้นักลงทุนลดรายได้ในอนาคตจากภาคส่วนนี้ แต่ภาคส่วนนี้พร้อมสำหรับการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ช้าลง

ดัชนี ยังทำผลงานได้ดีกว่าคู่แข่งในวอลล์สตรีท เนื่องจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า {{ecl-733||ดัชนีราคาผู้บริโภค CPI} ของสหรัฐฯ ผ่อนคลายลงมากกว่าที่คาดไว้ในเดือนพฤศจิกายน การอ่านค่านี้ทำให้ความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก 

ธนาคารกลางจะปรับ (bps) ในช่วงท้ายของการประชุมสองวันที่สิ้นสุดในวันพุธ แต่จุดสนใจถูกเบี่ยงไปที่ หลังการประชุมเพื่อดูแนวทางเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางของอัตราดอกเบี้ย

ขณะนี้ตลาดกำลังกำหนดราคาใน ในระหว่างการประชุมครั้งแรกของปี 2023 แต่เทรดเดอร์ก็ระมัดระวังต่อแนวโน้มความเข้มงวดของเฟด เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มทิศทางที่ยังอยู่เหนือช่วงเป้าหมายของธนาคารกลาง

ดัชนี ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.8% แม้ว่าข้อมูลจะแสดงให้เห็นว่า แย่ลงในไตรมาสที่สี่ แต่แนวโน้มของ ยังคงเป็นไปในเชิงบวกหลังจากฟื้นตัวจากเหตุการณ์แพร่ระบาดของโควิด

ถึงกระนั้น การอ่านค่าที่แยกต่างหากแสดงให้เห็นว่าตัวเลขที่ลดลงของ ของประเทศเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในเดือนตุลาคมจากเดือนก่อนหน้า ส่งสัญญาณถึงความอ่อนแอทางเศรษฐกิจในระยะสั้น

หุ้นอินเดียค่อนข้างเงียบ รอรายงาน ซึ่งจะครบกำหนดเปิดเผยในท้ายวันนี้ ดัชนี และ เพิ่มขึ้น 0.4% และ 0.3% ตามลำดับ