โดย Peter Nurse 

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงในการซื้อขายช่วงต้นวันพุธในตลาดยุโรป โดยเทรดเดอร์ระมัดระวังก่อนสรุปการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่สำคัญ

เมื่อเวลา 04:00 น. ET (08:00 GMT) ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับกลุ่มของสกุลเงินอื่น ๆ อีก 6 สกุล ซื้อขายลดลง 0.1% เป็น 111.225 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากระดับสูงสุดที่แตะเมื่อวันอังคารที่ 111.78 มากนัก ซึ่งเป็นระดับที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่ 25 ต.ค.

ได้รับการคาดหมายอย่างกว้างขวางว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 75 จุดพื้นฐานในวันพุธนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่สี่ติดต่อกัน ขณะนี้ตลาดได้แบ่งออกเป็นสองฝั่งตามขนาดของความน่าจะเป็นของอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับขึ้นในเดือนธันวาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากคำแนะนำล่าสุดจากเจ้าหน้าที่ของเฟดเกี่ยวกับการชะลอการกระชับการเงินที่อาจเกิดขึ้น

แต่อีกนับหนึ่่งธนาคารกลางสามารถยึดกับเส้นทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ที่เข้มงวดต่อไปได้เนื่องจากตลาดแรงงานที่ยังคงตึงตัวและยังไม่มีไม่มีสัญญาณใด ๆ ของการผ่อนคลายใน

“กรณีพื้นฐานของเราคือเฟดปรับขึ้นในอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงที่ 50 จุดพื้นฐาน ของการประชุมในเดือนธันวาคม” นักวิเคราะห์จาก ABN Amro กล่าว “หลังจากนั้น เราคาดว่าธนาคารจะหยุดนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น”

“อย่างไรก็ตาม เราไม่แน่ใจว่าเฟดจะส่งสัญญาณนี้ในการประชุมนี้ หากเฟดเลือกที่จะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่น้อยลงในเดือนธันวาคม ก็อาจจะมาพร้อมกับการแนะนำว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่เท่าไหร่ซึ่งอจจะสูงกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า”

ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าและปรับเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง อ้างอิงจากผลสำรวจของนักยุทธศาสตร์ด้านสกุลเงินของรอยเตอร์สที่ชี้ว่าการปรับลดลงของดอลลาร์นั้นจะเป็นเพียงชั่วคราว

เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 0.9879 ใกล้กับระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ของช่วงก่อนหน้าเป็น 0.9853 ก่อนการเปิดเผยข้อมูล ชุดสุดท้ายสำหรับยูโรโซนภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งน่าจะแสดงให้เห็นว่าภูมิภาคนี้กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย

เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 1.1499 ก่อนการประชุมนโยบาย ในวันพฤหัสบดี โดยตลาดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น 75 จุดพื้นฐาน และอัตรา {{ecl- 67||เงินเฟ้อของผู้บริโภค}} จะพุ่งแตะตัวเลขสองหลักในเดือนกันยายน

ลดลง 0.7% แตะ 147.26 โดยเทรดเดอร์จับตาการแทรกแซงหลังจากทางการญี่ปุ่นยืนยันว่าประเทศได้ใช้เงิน 42.8 พันล้านดอลลาร์ในการแทรกแซงค่าเงินในเดือนนี้เพื่อหนุนค่าเงินเยน

ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นยังช่วยหนุนเงินเยนด้วยการกล่าวว่านโยบายที่เข้มงวดเป็นพิเศษของธนาคารอาจเป็นไปได้หาก ในประเทศผ่อนคลายลง

เพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 0.6414 ขณะที่ ปรับลดลงมาอยู่ที่ 7.2756 โดยเงินหยวนได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันว่าทางการจีนกำลังพิจารณาผ่อนคลายนโยบายโควิดที่เข้มงวดของประเทศซึ่งส่งผลหนักต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในปีนี้