สำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกาหรือ FBI ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับแอปพลิเคชันคริปโตปลอมที่ได้หลอกลวงนักลงทุนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสร้างความเสียหายไปแล้วประมาณ 42.7 ล้านดอลลาร์

FBI ออกโรงเตือนแอปพลิเคชันคริปโตปลอม

ตามคำแนะนำที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2022 ที่ผ่านมาโดยหน่วยงานด้านหลักทรัพย์และข่าวกรองระบุว่า “อาชญากรไซเบอร์ได้สร้างแอปพลิเคชันปลอมที่ใช้โลโก้และระบุข้อมูลว่าเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านคริปโตที่ถูกกฎหมายเพื่อหลอกลวงนักลงทุน

FBI ตั้งข้อสังเกตว่า ตอนนี้มี 244 คน ตกเป็นเหยื่อของแอปพลิเคชันปลอมเหล่านี้แล้ว

FBI ได้กล่าวถึงกระบวนการในการหลอกลวงของอาชญากรอีกด้วยว่า “อาชญากรในโลกไซเบอร์นั้นจะโน้มน้าวให้เหยื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชันปลอมเหล่านี้ เพื่อกระตุ้นให้พวกเขาฝากสกุลเงินดิจิทัลเข้ากระเป๋าเงินโดยอ้างว่ามันมีบางสิ่งที่เกิดขึ้นและเกี่ยวข้องกับบัญชีของพวกเขา และเมื่อเหยื่อพยายามถอนตัวออกจากแอปพลิเคชันปลอม เหยื่อจะถูกขอให้จ่ายภาษีสำหรับการถอนเงิน อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงกลอุบายอีกอย่างหนึ่งในการหลอกเอาเงินเพิ่มเติมจากผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ แม้พวกเขาจะชำระเงินภาษีที่ผู้ร้ายกล่าวอ้างไปแล้ว แต่เหยื่อก็จะไม่สามารถทำการถอนเงินได้อีกต่อไป”

สำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริการายงานอีกว่า “เหยื่อกว่า 28 รายถูกหลอกลวงระหว่างเดือนธันวาคม 2564 ถึงพฤษภาคม 2565 และสูญเสียเงินไปประมาณ 3.7 ล้านดอลลาร์”

เหตุการณ์การหลอกลวงต่างๆ ที่เกิดขึ้น

อาชญากรไซเบอร์ที่ปฏิบัติการภายใต้ชื่อบริษัท “YiBit” ที่หลอกลวงเหยื่ออย่างน้อย 4 รายและมีมูลค่าการสูญเสียประมาณ 5.5 ล้านดอลลาร์ระหว่างเดือนตุลาคม 2564 ถึงพฤษภาคม 2565 อาชญากรที่ดำเนินการภายใต้ชื่อ “Supay” ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ซึ่งพวกเขาได้ฉ้อโกงเหยื่อ 2 คน โดยสนับสนุนให้พวกเขาฝากสกุลเงินดิจิทัลเข้ากระเป๋าเงินในแอปพลิเคชันปลอม ซึ่งไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ ผู้ใช้รายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวผ่าน Twitter ของเขาว่า เพื่อนของเขานั้นตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงที่เริ่มต้นแอปพลิเคชัน Whatsapp ซึ่งสนับสนุนให้เหยื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชันปลอมและผู้ร้ายก็สนับสนุนให้เหยื่อฝากสกุลเงินดิจิทัลเข้าไปในนั้น และหนึ่งสัปดาห์ต่อมา แอปพลิเคชันปลอมนั้นก็หายไปเหยื่อคนอื่นๆ กล่าวอีกว่า พวกเขาตกเป็นเหยื่อของแอปพลิเคชัน Ledger Live ปลอม ซึ่งแอปพลิเคชันปลอมนั้นถูกใช้ชื่อ “Ledger Live Plus” ใน App Store ของ ...

กดอ่านข่าวต่อที่ CryptoSiam