(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 112.64 จุด หุ้นแบงก์พุ่งหลังเผยผลประกอบการ โดย InfoQuest
2023-01-17 13:10:12
more 
851

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (13 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้นหลังจากเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่ง ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,302.61 จุด เพิ่มขึ้น 112.64 จุด หรือ +0.33%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,999.09 จุด เพิ่มขึ้น 15.92 จุด หรือ +0.40% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,079.16 จุด เพิ่มขึ้น 78.05 จุด หรือ +0.71%

ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 2%, ดัชนี S&P500 ปิดเพิ่มขึ้น 2.7% และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 4.8% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.

ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น 4.2% แล้วในปีนี้ ขณะที่ดัชนี Cboe Volatility ซึ่งวัดความวิตกของนักลงทุนนั้น ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี

หุ้นกลุ่มการเงินเป็นหนึ่งในกลุ่มที่หนุนดัชนี S&P500 ขึ้นมากที่สุด

เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และแบงก์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป เปิดเผยผลกำไรต่ำกว่าคาด แต่หุ้นธนาคารทั้ง 4 ตัวดังกล่าวปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 2.5% และดัชนี S&P500 หุ้นกลุ่มธนาคารปิดบวก 1.6%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจในวันศุกร์ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 64.6 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 60.7 หลังจากแตะระดับ 59.7 ในเดือนธ.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นได้แรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 4.0% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า ต่ำกว่าระดับ 4.4% ที่มีการสำรวจในเดือนที่แล้ว และผู้บริโภคคาดการณ์ว่า ในช่วง 5 ปีข้างหน้า เงินเฟ้อจะแตะระดับ 3.0% สูงกว่าระดับ 2.9% ที่มีการสำรวจในเดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้าต่างก็ปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน

ส่วนการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพฤหัสบดี (12 ม.ค.) และข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ ของสหรัฐในช่วงที่ผ่านมานั้น ได้หนุนความหวังว่า เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มลดลงอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยบรรดานักลงทุนคาดการณ์ในขณะนี้ว่า มีโอกาส 91.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.พ.

หุ้นเทสลา ปรับตัวลง 0.9% สวนทางตลาด หลังปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐและยุโรปลงมากถึง 20% หลังจากการส่งมอบรถยนต์ในปี 2565 ต่ำกว่าคาด

หุ้นเดลตา แอร์ไลน์ ร่วงลง 3.5% หลังคาดการณ์ผลกำไรไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด

ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ (16 ม.ค.) เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ และในสัปดาห์นี้ บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงความเห็นของซีอีโอของบริษัทต่าง ๆ เกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจ

ข้อมูลจากรีฟินิทิฟ (Refinitiv) ระบุว่า ผลประกอบการเมื่อเทียบเป็นรายปีของบริษัทในดัชนี S&P500 นั้นคาดว่าจะลดลง 2.2% ในไตรมาส 4/2565

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

Kenyataan:
Kandungan artikel ini tidak mewakili pandangan laman web FxGecko. Kandungan adalah untuk rujukan sahaja dan bukan merupakan nasihat pelaburan. Pelaburan adalah berisiko, pilih dengan teliti! Jika terdapat sebarang isu berkaitan kandungan, hak cipta, dsb., sila hubungi kami dan kami akan membuat pelarasan secepat mungkin!

Artikel Berkaitan

您正在访问的是FxGecko网站。 FxGecko互联网及其移动端产品是中国香港特别行政区成立的Hitorank Co.,LIMITED旗下运营和管理的一款面向全球发行的企业资讯査询工具。

您的IP为 中国大陆地区,抱歉的通知您,不能为您提供查询服务,还请谅解。请遵守当地地法律。