โดย Ambar Warrick 

-- ราคาทองคำทรงตัวที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบหนึ่งเดือนในวันอังคาร ท่ามกลางแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ความสนใจอยู่ที่สัญญาณเศรษฐกิจจากคำปราศรัยของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ในท้ายวันนี้

ทองคำมีเซสชันที่เคลื่อนไหวเงียบ ๆ ในวันจันทร์หลังจากการลดลงรายสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 7 เดือน สาเหตุจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเกินคาดทำให้ตลาดเปลี่ยนความคาดหวังอย่างกว้างขวางสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยเฟด

การฟื้นตัวของ และ ได้กดดันสินทรัพย์ส่วนใหญ่ที่ไม่ให้ผลตอบแทน ซึ่งรวมถึงทองคำที่แรลลี่ขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาแต่ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการถูกเทขาย

ราคา ทรงตัวที่ 1,868.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 1,881.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 19:00 ET (00:00 GMT) ตราสารทั้งสองร่วงลงกว่า 3% ในสัปดาห์ที่แล้ว

ตอนนี้ความสนใจเน้นไปที่ ที่ Economic Club of Washington D.C. ในท้ายวันนี้ ความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและนโยบายการเงินจะถูกติดตามอย่างใกล้ชิด โดยหลังจากการอ่านค่า ที่แข็งแกร่งเกินคาดในวันศุกร์

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่คาดการณ์ไว้และส่งสัญญาณว่าจะยังคงทำเช่นนั้นต่อไปในระยะเวลาอันใกล้ เนื่องจากเฟดยังคงเคลื่อนไหวเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะผ่อนคลายลงอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังสูงกว่าเป้าหมายประจำปีของธนาคารกลาง

ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งยังเห็นตลาดปรับลดความคาดหวังของพวกเขาสำหรับนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงจากเฟดในปีนี้ ท่ามกลางความกังวลว่าตลาดงานที่แข็งแกร่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น

โลหะมีค่าอื่น ๆ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันอังคาร เพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 979.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ เพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 22.310 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ในบรรดาโลหะอุตสาหกรรม ราคาทองแดงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากร่วงลงในช่วงห้าช่วงที่ผ่านมา ทองแดงได้ขาดทุนจำนวนมากเมื่อเร็ว ๆ นี้ และขณะนี้ใกล้จะร่วงต่ำกว่าระดับ 4 ดอลลาร์ต่อปอนด์ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศจีนที่เป็นผู้นำเข้ารายใหญ่

เพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 4.0442 ดอลลาร์ต่อปอนด์

และความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกยังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อโลหะอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงขึ้น